ด้วยประสิทธิภาพของระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ที่เหนือกว่าระบบระบายน้ำฝนแบบเดิม สามารถบริหารจัดการน้ำฝนให้กับโครงการได้เป็นอย่างดี ฉีกทุกข้อจำกัดในการออกแบบที่ระบบระบายน้ำฝนแบบเก่าไม่สามารถทำได้
การันตีด้วยผลงานการออกแบบโครงการชั้นนำ มากกว่า 1,000 โครงการ โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ไม่ว่าจะเป็น โรงงาน ศูนย์กระจายสินค้า ห้างสรรพสินค้า และสนามบิน เป็นต้น
1. ใช้ท่อน้ำฝนขนาดเล็กกว่า2. ระบายเร็วกว่า 10 เท่า3. ใช้วัสดุในการติดตั้งลดลง4. ท่อแนวนอนไม่ต้องทำ Slope5. ออกแบบได้อย่างอิสระ6. ลดจำนวนบ่อ Manhole7. ลดต้นทุนโดยรวมของโครงการ
ด้วยลักษณะของหัวระบายน้ำฝนแบบกราวิตี้ ที่เป็นตระแกรงเพื่อป้องกันขยะลงไปในท่อน้ำฝน แต่ไม่สามารถป้องกันอากาศได้ ทำให้การไหลของน้ำที่ลงไปในท่อน้ำฝนจะมีทั้งน้ำและอากาศผสมกันลงไปซึ่งส่วนใหญ่ตรงกลางท่อน้ำฝนจะเป็นอากาศถึง 2/3 ของขนาดท่อน้ำฝน จึงต้องใช้ท่อขนาดใหญ่ เพื่อให้เพียงพอต่อการระบายน้ำ แตกต่างจากระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ที่ออกแบบให้ระบายน้ำแบบเต็มท่อขนาดท่อจึงพอดีกับปริมาณน้ำ ไม่ต้องเผื่อขนาดท่อสำหรับอากาศในท่อน้ำฝน จึงใช้ท่อน้ำฝนขนาดเล็กกว่า
ด้วยการออกแบบของระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ที่ทำให้น้ำไหลแบบเต็มท่อ ไม่มีอากาศผสมเมื่อระบบเริ่มทำงานแบบไซโฟนิค ความดันในท่อจะเปลี่ยนไปเป็นความดันแบบติดลบ ทำให้เกิดแรงดูดในท่อระบายน้ำฝน ช่วยให้ระบายน้ำได้เร็วกว่าปกติเป็นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองระบบที่ท่อขนาดเท่ากันยกตัวอย่าง ท่อ HDPE เส้นผ่านศูนย์กลาง 75 มม. ระบบกราวิตี้ระบายน้ำได้เพียง 1.65 ลิตรต่อวินาทีในขณะที่ระบบระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ระบายได้ถึง 16.5 ลิตรต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าถึง 10 เท่า
ด้วยประสิทธิภาพของระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ที่ระบายน้ำฝนได้มากกว่า และเร็วกว่าระบบระบายน้ำฝนกราวิตี้ ทำให้ระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ใช้หัวระบายน้ำฝนน้อยกว่า ใช้ท่อขนาดเล็กกว่า และจำนวนน้อยกว่าระบบกราวิตี้
ข้อดีของระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic อีกอย่างหนึ่งคือ สามารถเดินท่อแนวนอนได้ยาว โดยไม่ต้องทำ Slope เพราะภายในท่อมีแรงดันแบบติดลบ ช่วยดูดน้ำในท่อให้ระบายอย่างรวดเร็วได้ ทำให้อาคารมีความสวยงาม และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้านล่าง ต่างจากระบบกราวิตี้ที่ต้องทำท่อให้ลาดเอียง เพื่อช่วยให้น้ำไหลเร็วขึ้น ยิ่งท่อแนวนอนยาวเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เสียพื้นที่ในการทำท่อให้ลาดเอียงตามไปด้วย
ระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic สามารถออกแบบได้ตรงตามทุกความต้องการของโครงการ เดินท่อแนวนอนได้ยาวโดยไม่ติดปัญหาเรื่องการทำ Slope ระบายน้ำได้มาก สามารถรวบหัวระบายน้ำฝนหลายหัวโดยใช้ท่อเพียงเส้นเดียว ไปยังตำแหน่ง Manhole ที่ต้องการ และเพิ่มความสวยงามให้กับโครงการได้อย่างมาก
จากการออกแบบได้อย่างอิสระ ทำให้โครงการสามารถกำหนดจุดลงท่อได้ตามความต้องการ เช่น จากเดิมจะต้องมี Manhole รองรับท่อน้ำฝนรอบอาคาร แต่ระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic สามารถออกแบบให้ท่อน้ำฝนไปลงที่ริมอาคารเท่านั้นได้ กำหนดให้ท่อน้ำฝนลงด้านข้างอาคารเท่านั้น ก็จะช่วยลดจำนวนบ่อManholeให้เหลือเพียงบางจุดได้ จากเดิมที่ต้องวางรอบอาคาร
จากทุกข้อที่กล่าวมา จะเห็นว่า ระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ช่วยลดวัสดุที่ใช้ในการทำระบบระบายน้ำฝน ลดงานติดตั้ง และยังช่วยลดงานโครงสร้าง เช่น งานขุดดินฝังท่อ และ Manhole ของระบบSite Drainage ลดเวลาในการทำงาน จึงทำให้ต้นทุนโดยรวมมลดลงไปด้วย